ทองวันนี้ปิดตลาด "ขึ้น 450 บาท" ความรุนแรงอิสราเอล-ฮามาส หนุนขึ้นต่อ
สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำในประเทศวันที่ 9 ต.ค. 2566 ปิดการซื้อขายยังขึ้นต่อรวมเป็น 450 บาทจากช่วงสุดสัปดาห์โดยวันนี้ปัจจัยทองได้แรงหนุนจากความรุนแรงและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
เช็กแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ จับตาเหตุโจมตีอิสราเอล-เงินเฟ้อสหรัฐ
น้ำมันดิบพุ่ง 5% ปมสงครามครั้งใหญ่อิสราเอล-ปาเลสไตน์ จับตาตลาดผันผวน
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน32,400.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 32,500.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 31,820.84 บาท/บาททองคำ และขายออก 33,000.00 บาท/บาททองคำ
- ทอง 1 สลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 8,625 บาท
- ทอง 2 สลึงราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 16,750บาท
- ทองครึ่งสลึง ราคารวมค่ากำเหน็จ อยู่ที่ 4,563 บาท
ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 1,851.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 37.12 บาท/ดอลลาร์
ฮั่วเซ่งเฮง มองสงครามอิสราเอล-ฮามาส หนุนราคาทองคำปรับขึ้นต่อ นักลงทุนหนีไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
โดยตามการวิเคราะห์ราคาทองจาก ฮั่วเซ่งเฮง มองว่า เหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาส (Hamas) ถล่มพื้นที่อิสราเอลตอนใต้ จะเป็นปัจจัยส่งผลบวกต่อราคาทองคำได้ต่อในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ต้องติดตามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะขยายวงกว้างหรือไม่? เนื่องจากอิสราเอลเป็นประเทศที่สหรัฐให้การสนับสนุน ขณะที่ฝรั่งเศส สหภาพยุโรป (EU) และเนเธอร์แลนด์ก็ต่างแสดงการสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นกัน หากสถานการณ์ขยายวงกว้างก็จะกระทบต่อการค้าการลงทุน
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามท่าทีของอียิปต์ ตุรกี และประเทศอื่น ๆ ที่อาจเป็นประเทศที่ช่วยเจรจาเพื่อบรรเทาความรุนแรงได้ ซึ่งตุรกีก็เผยพร้อมช่วยลดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสของปาเลสไตน์ ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้นายกรัฐมนตรีอิสราเอลอาจเดินทางเยือนตุรกีในเดือนต.ค.-พ.ย. เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงาน ส่วนตุรกีวางแผนจะเยือนอิสราเอลในเดือนพ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งและความตึงเครียดในครั้งนี้ คาดว่าอาจจะยืดเยื้อเป็นระยะเวลายาวนาน แต่สิ่งสำคัญสงครามครั้งนี้จะสามารถจำกัดในบริเวณพื้นที่นั้น หรือจะขยายวงกว้างได้มากน้อยขนาดไหน เพราะ อิสราเอล เป็นพันธมิตรกับชาติตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา ขณะที่ปาเลสไตน์ก็ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน จึงอาจกลายเป็นสงครามระหว่าง 2 ขั้วอำนาจ
อาจส่งผลต่อแรงซื้อทองคำเข้ามาในช่วงแรกจากความกังวลดังกล่าว ในขณะที่นักลงทุนก็ยังคงติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากโดยปกติแล้วราคาทองคำมักจะดีดตัวขึ้นจากความกังวลของภาวะสงคราม อย่างเช่นในช่วงต้นปี 2563 ราคาทองคำดีดตัวขึ้นจาก 1,550 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,600 ดอลลาร์ หลังจากมีการปะทะกันระหว่างสหรัฐและอิหร่าน และหลังจากนั้นราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อจากความกังวลว่าเหตุการณ์อาจรุนแรงจนขยายวงกว้างออกไปด้วยอิหร่านและสหรัฐเป็นประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และอื่นๆ
.ราคาทองคำคาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหว Sideways up สัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย. นอกจากนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ส่วนสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,830 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,860 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,880 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 31,800 บาท และ 31,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 32,100 บาท และ 32,300 บาท
YLG มองเหตุปะทะอิสราเอล-ฮามาสหนุนทองคำพุ่งระยะสั้น ในปลายปีหากไม่สงบอาจเห็นนิวไฮอีกครั้ง
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับขึ้นมาล่าสุดเป็นผลมาจากเหตุไม่สงบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ส่งผลให้นักลงทุนมีความกังวลว่าเหตุการณ์จะมีความยืดเยื้อหรือไม่จึงโยกเงินเข้ามาพักไว้ในทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หากภายในสิ้นปีนี้ยังไม่คลี่คลายทองคำมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง
หากมองภาพใหญ่จะเห็นว่าทองคำเป็นขาขึ้นมาแล้วอย่างต่อเนื่องถึง 3 ปี เริ่มจากจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ตามด้วยสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และล่าสุดเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลทั้งนี้แม้ว่าการปรับขึ้นของราคาทองรอบนี้จะเกิดจากความวิตกกังวลจากเหตุการณ์ไม่สงบ และในระยะสั้นอาจจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาตามรอบ
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวทองคำรอบนี้จะเป็นขาขึ้นไปอีก 3 – 5 ปี โดยหากผ่านจุดสูงสุดของปีที่ 2,079 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ไปได้ จะปรับตัวขึ้นไปที่ 2,125 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และ 2,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
โดยระยะสั้นสามารถเก็งกำไรได้ ส่วนระยะยาว 3-5 ปี มองว่าเป็นขาขึ้น เพราะปัจจัยกดดันทองคือดอกเบี้ยและในช่วง 3-5 ปี ข้างหน้าอัตราดอกเบี้ยน่าจะเริ่มเป็นขาลง แต่ปัจจัยบวกสำหรับทองคำยังมาจากหลายปัจจัยทั้งความกังวลเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด